Home |
tidpaknews “ชาโด้ สิงห์มาวิน” นักสู้ยอดกตัญญู วัย 25 ปี จากเมืองตาก เปิดเผยความในใจหมดเปลือกหลังการปะทะกับ “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” มวยอาวุธเดือด วัย 27 ปี จากแอลจีเรีย จบลงแบบ “ไม่มีผลการแข่งขัน” ในศึก ONE Fight Night 33 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
หลังจากคว้าสัญญา ONE มาครองได้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา งานแรกของ “ชาโด้” ในฐานะนักกีฬา ONE ถูกประกบให้พบกับ “โมฮาเหม็ด” นักสู้จากแอลจีเรีย และถือเป็นก้าวแรกของเขาที่ได้ขึ้นชกในรายการระดับโลก tidpaknews
เกมการชกเต็มไปด้วยความดุเดือด “ชาโด้” ปล่อยหมัดเด็ดเรียกนับได้ช่วงปลายยกแรก ก่อนจะเดินหน้าออกอาวุธต่อเนื่องในยกสอง กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อ “ชาโด้” พลาดนิ้วจิ้มเข้าตาของ “โมฮาเหม็ด” ในขณะออกอาวุธ
หลังทีมแพทย์เข้าตรวจอาการ ปรากฏว่า “โมฮาเหม็ด” ไม่สามารถแข่งขันต่อได้ โดยตามกติกาของ ONE หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัยระหว่างการแข่งขัน และยังแข่งไม่จบยกที่ 2 (ในกรณีชก 3 ยก) กรรมการจะไม่สามารถรวมคะแนนตัดสินได้ ทำให้ไฟต์นี้ถูกตัดสินว่า “ไม่มีผลการแข่งขัน (No Contest)”
การตัดสินดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา หลังจบเกม โดย “ชาโด้” เองออกมาเปิดใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
แม้การเปิดตัวบนเวทีระดับโลกจะไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ “ชาโด้” ยังแสดงหัวใจนักสู้เต็มเปี่ยม พร้อมเก็บบทเรียนจากไฟต์นี้ไปปรับปรุงแก้ไขและมุ่งมั่นจะกลับมาแจ้งเกิดให้ได้ในโอกาสหน้า
ชาโด้ ได้บทเรียนจากครั้งแรกบนเวทีใหญ่
“ชาโด้” ยอมรับว่าการได้ขึ้นชกบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลกทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้ในฐานะนักกีฬา ONE และแม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ปังดั่งตั้งใจ แต่เขารอโอกาสต่อไปที่จะทำผลงานให้ดีกว่าเดิม
ทั้งนี้ ทางค่ายต้นสังกัดของ “โมฮาเหม็ด” ได้โพสต์อัปเดตอาการ หลังเข้ารับการตรวจตาอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล โดยผลตรวจระบุว่า “โมฮาเหม็ด” ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ซึ่งทาง ONE จะดำเนินการดูแลด้านการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดต่อไป tidpaknews