| Home |
รถถัง จิตรเมืองนนท์ กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกกีฬาและวงการมวย หลังออกมาเปิดเผยถึงมุมชีวิตครอบครัวแบบไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน โดยบอกชัดเจนว่าตนเอง ไม่ได้บังคับลูกชายให้เป็นนักมวย แม้หลายคนจะคิดว่าลูกของแชมป์โลก ONE มวยไทยต้องถูกปั้นให้เดินตามรอยพ่อ แต่รถถังย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็น “ความต้องการของเด็กเอง” แม้ว่าภรรยาจะอยากให้ลูกชายลองเรียนมวยเพราะเป็นกีฬาที่ช่วยสร้างวินัยและความแข็งแรงก็ตาม ข่าวนี้ทำให้แฟนมวยพูดถึงกันอย่างมาก เพราะมันแสดงให้เห็นว่ารถถังไม่ได้มีเพียงด้านนักสู้ผู้ดุดันบนเวที แต่ยังมีความเป็นพ่อที่อ่อนโยนและต้องการให้ลูกเติบโตอย่างอิสระ เรื่องนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่รถถังกำลังเร่งฟิตซ้อมเพื่อเตรียมขึ้นชิงเข็มขัดอีกครั้ง ยิ่งทำให้มุมชีวิตส่วนตัวของเขาถูกจับตามองมากกว่าเดิม
หลังการให้สัมภาษณ์ของรถถัง จิตรเมืองนนท์ ถูกเผยแพร่ออกมา โลกโซเชียลเกิดกระแสถกเถียงอย่างหนักว่าลูกชายควรถูกผลักดันให้เป็นนักมวยหรือไม่ ฝั่งหนึ่งมองว่าเมื่อพ่อคือยอดนักชกระดับโลก เด็กก็ควรมีพรสวรรค์ติดตัว ส่วนอีกกลุ่มกลับกังวลว่ากีฬามวยมีความเสี่ยงสูงเกินไป ทั้งอาการบาดเจ็บ การถูกทำร้ายสมอง และความกดดันที่เด็กไม่ควรรับตั้งแต่อายุยังน้อย ข่าวนี้จึงกลายเป็นกระแสไวรัลทันที เพราะมันสะท้อนคำถามระดับใหญ่ของวงการกีฬา นั่นคือ “นักกีฬาควรผลักดันลูกให้เดินทางเดียวกันหรือไม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถถังกำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพการชก ทำให้ผู้คนอยากรู้ว่าครอบครัวของเขามีมุมมองอย่างไรกับอนาคตของทายาทบนเส้นทางนักสู้ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง ความเจ็บปวด และความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้า
เรื่องของรถถัง จิตรเมืองนนท์ ไม่ได้เป็นเพียงข่าวครอบครัวธรรมดา แต่ยังสะท้อนความคาดหวังของวงการมวยไทยต่ออนาคตของเด็กรุ่นใหม่ ในอดีต นักมวยจำนวนมากเริ่มต่อยมวยตั้งแต่ 6–8 ขวบ เพราะถูกมองว่า “ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งเก่ง” แต่ปัจจุบันเริ่มมีข้อถกเถียงด้านความปลอดภัยและพัฒนาการของเด็ก ทั้งจากวงการแพทย์และนักวิชาการ ทำให้ข่าวของรถถังกลายเป็นตัวจุดประกายสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งคำถามว่าระบบมวยเด็กในไทยควรถูกปรับปรุงหรือไม่ เช่น ปรับอายุเริ่มต้น เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย หรือจำกัดจำนวนยกที่เด็กสามารถขึ้นชกได้ พร้อมทั้งเสนอให้นักมวยระดับซูเปอร์สตาร์อย่างรถถังช่วยขับเคลื่อนประเด็นนี้ ในขณะที่แฟนมวยมองว่าภาพลักษณ์ของรถถังในฐานะ “พ่อ” อาจสร้างผลกระทบเชิงบวก ทำให้สังคมเปิดใจคุยเรื่องสวัสดิภาพเด็กมากขึ้น
แม้จะมีดราม่าเรื่องครอบครัว แต่รถถัง จิตรเมืองนนท์ ยังคงซ้อมหนักเพื่อเตรียมขึ้นไฟต์สำคัญที่กำลังจะประกาศอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าบทบาทความเป็นพ่อทำให้เป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้น เขาต้องการชกให้นานที่สุดเท่าที่ร่างกายไหว เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้ครอบครัว ข่าวนี้ทำให้เห็นว่ารถถังไม่ได้กำลังสู้เพื่อ “ชื่อเสียง” หรือ “เข็มขัด” เหมือนเดิม แต่กำลังสู้เพื่อคนในบ้านที่รักเขามากที่สุด แฟนมวยมองว่าพลังแบบนี้อาจทำให้รถถังอันตรายกว่าเดิมบนเวที เพราะแรงผลักดันทางใจเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังต้องลุ้นว่าลูกชายเขาจะเลือกเส้นทางใดในอนาคต และครอบครัวจะแสดงท่าทีอย่างไรต่อไวรัลที่เกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือรถถังกำลังมุ่งหน้าสู่ช่วงสำคัญที่สุดของอาชีพอีกครั้ง ( อ่านเพื่มเติม กัญชา )