| Home |
กระแสในโลกกีฬา one championship กำลังร้อนแรงเมื่อยอดดาวรุ่งรุ่นสตรอว์เวตอย่าง “รามาดาน ออนดาช” วัย 19 ปี ต้องเผชิญหน้ากับ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” วัย 21 ปี ผู้มีสไตล์ก้านยาวดุดัน ไฟต์นี้ถูกจับตามองเพราะผู้ชนะจะมีสิทธิใกล้ชิดที่สุดในการชิงบัลลังก์จาก “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลกตัวจริงของรุ่น การเผชิญหน้าของทั้งคู่เป็นมากกว่าไฟต์ธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยแรงผลักดันของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองบนเวทีนานาชาติ เหมือนเชฟรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างชื่อในวงการอาหาร ต้องชี้วัดว่ารสมือใครจัดจ้านมากกว่ากัน
รามาดานถือเป็นนักสู้ที่มีสปีดรวดเร็ว เน้นการเข้าทำแบบระยะประชิด ใช้หมัด–ศอกเป็นอาวุธหลัก ส่วนอาลีฟเป็นสายก้านยาวคุมจังหวะดี มีความแม่นยำในการเตะ และอ่านระยะคู่ต่อสู้ยอดเยี่ยม สไตล์ที่ต่างกันจะทำให้ไฟต์นี้เดือดตั้งแต่ยกแรก ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าคนดูจะได้เห็นการวางหมากทั้งเกมรุกและเกมรับคล้ายการแข่งขันทำเมนูที่ต้องบาลานซ์ความเผ็ด ความนัว และความกลมกล่อมเหมือนการปรุงอาหารไทยชั้นยอด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสนุกที่แฟนกำปั้นตั้งตารอชม
ศึก ONE Fight Night 38 ไม่ได้เป็นเพียงไฟต์วัดฝีมือ แต่เป็นจุดตัดเส้นทางของทั้งสองคน หากรามาดานชนะ เขาจะกลายเป็นดาวรุ่งจากเลบานอนที่ก้าวไกลที่สุดในรายการ ส่วนอาลีฟ หากเอาชนะได้ ก็จะเป็นหลักฐานว่าดาวรุ่งไทย–มาเลย์เองก็พร้อมยืนแถวหน้าของรุ่นสตรอว์เวต การลุ้นบัลลังก์จากพระจันทร์ฉายไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเขาเป็นหนึ่งในแชมป์ที่ทรงพลังที่สุดของ ONE แต่ไฟต์นี้จะเป็นด่านสำคัญที่แยก “ผู้หวังไกล” กับ “ผู้คู่ควรจริง” เหมือนการทดสอบรสมือของร้านอาหารที่ต้องผ่านรีวิวความเข้มข้นจากลูกค้าจริงก่อนก้าวสู่ระดับมาสเตอร์
ศึกนี้จะจัดที่เวทีลุมพินี (รามอินทรา) ซึ่งถือเป็นสังเวียนที่มีมนต์ขลังของมวยไทยระดับโลก บวกกับการถ่ายทอดสดในไพรม์ไทม์อเมริกาทำให้ไฟต์นี้ถูกจับตามองจากแฟนทั่วโลก การจัดโปรดักชันของ ONE ยังคงคุณภาพสูงทั้งแสง สี เสียง และงานถ่ายทอดที่ทำให้ทุกหมัด–ศอกดูทรงพลังเหมือนอยู่ในสนามจริง นักวิเคราะห์บอกว่าศึกนี้จะสร้างอารมณ์ร่วมไม่ต่างจากการชิมอาหารจานเด็ดที่จัดเต็มทุกเครื่องปรุง ความเข้ม ความสด และความจัดจ้านพร้อมเสิร์ฟให้แฟน ๆ อย่างเต็มอิ่มแบบไม่มีกั๊ก
การเจอกันของรามาดานและอาลีฟในไฟต์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนยุคในรุ่นสตรอว์เวต ไม่ว่าผลจะออกมายังไง ทั้งคู่ต่างพิสูจน์แล้วว่ามีศักยภาพพอจะก้าวไปแตะระดับโลก ความดุเดือดของไฟต์นี้อาจถูกยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของปี และอาจกลายเป็นการปูทางสู่ผู้ท้าชิงพระจันทร์ฉายคนต่อไปได้จริง บรรยากาศการแข่งขันที่ดุดันและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนี้ สะท้อนการไต่ระดับในวงการกีฬาแบบเดียวกับเชฟที่ต้องสร้างชื่อผ่าน รีวิวอาหาร ชั้นนำ ก่อนก้าวสู่ระดับโลก ทำให้ไฟต์นี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่คือบทพิสูจน์ตัวตนของทั้งสองนักสู้