| Home |
เหตุการณ์ที่ทำให้ วงการมวยไทย ต้องสั่นสะเทือนเกิดขึ้นเมื่อมีรายงานว่า นักมวยไทยโดนวางยา ก่อนขึ้นชกไฟต์ชิงแชมป์ ทำให้ต้องยกเลิกการแข่งขันแบบกะทันหัน ทั้งที่เป็นไฟต์สำคัญที่แฟนมวยทั่วประเทศรอชมกันอย่างใจจดใจจ่อ ตามรายงานระบุว่า นักมวยเริ่มมีอาการผิดปกติช่วงก่อนขึ้นชกไม่นาน มีอาการเวียนหัว หน้ามืด อ่อนแรง และเซื่องซึมผิดปกติ ทีมงานจึงพาเข้าตรวจเช็กอย่างเร่งด่วน ก่อนพบว่าสภาพร่างกายไม่พร้อมถึงขั้นเสี่ยงต่อชีวิต การประกาศยกเลิกไฟต์กลางอากาศทำให้ผู้ชมในสนามและออนไลน์เกิดกระแสวิพากษ์หนักทันที หลายคนตั้งคำถามว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุทางสุขภาพ หรือมี “เบื้องหลังมืด” ในการแข่งครั้งนี้ ขณะเดียวกันค่ายต้นสังกัดออกมายืนยันว่ามีความผิดปกติจริง และกำลังเตรียมหลักฐานเพื่อร้องขอให้มีการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ จนกลายเป็นดราม่าร้อนแรงที่ยังคงถกเถียงไม่หยุดในโลกโซเชียล
หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น ทีมงานของนักมวยได้ออกมาเผยรายละเอียดสำคัญว่า นักชกมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังซ้อมเบาๆ ได้ตามปกติในห้องพักด้านหลังเวที ทีมงานเล่าว่าอาการของเขาเริ่มจากเวียนหัวเล็กน้อย ก่อนจะสั่นไปทั้งตัวและหมดเรี่ยวแรงจนยืนไม่ไหว การตรวจเบื้องต้นพบชีพจรผิดปกติ หน้าซีด และไม่สามารถตอบสนองคำสั่งง่ายๆ ได้เต็มที่ จึงมั่นใจว่าไม่ใช่อาการป่วยธรรมดา แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกแทรกแซงจากบุคคลภายนอก นอกจากนี้ทางค่ายยังมีพยานหลายคนที่เห็นว่านักมวยรับเครื่องดื่มจากบุคคลไม่ทราบฝ่ายก่อนเกิดเหตุไม่นาน ทำให้ประเด็นนี้ยิ่งถูกขยายต่อไปว่าอาจเป็นการ “จัดฉากล้มไฟต์” หรือความพยายามดิสเครดิตนักมวยก่อนขึ้นชกในไฟต์ใหญ่ ทำให้ผู้ชมและนักกีฬาหลายคนเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างจริงจัง
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ นักมวยและผู้ฝึกสอนจำนวนมากได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าปัญหาการวางยานักมวยไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะไม่มีระบบป้องกันที่เข้มข้นเพียงพอ พวกเขาระบุว่าการดูแลนักมวยก่อนขึ้นชกควรมีระบบปิด ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าถึงตัวนักมวยง่ายเกินไป รวมถึงต้องมีทีมแพทย์และทีมสวัสดิการคอยตรวจประเมินสภาพร่างกายทันทีที่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ห้องพักนักกีฬา และต้องมีกฎควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจนเหมือนกีฬาระดับโลกอย่าง MMA หรือมวยสากลอาชีพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมในเวทีมวยไทยอีกต่อไป ดราม่านี้จึงกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการพูดคุยอย่างจริงจังเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในเวทีมวยบ้านเรา
ในขณะนี้คณะกรรมการกำลังเร่งรวบรวมข้อมูลและหลักฐานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลตรวจจากทางการแพทย์ บันทึกกล้องวงจรปิด ผู้ที่มีสิทธิเข้าใกล้นักมวยก่อนแข่งขัน รวมถึงคำให้การจากทีมงานและคู่แข่ง หากพบว่ามีการวางยาจริง ไม่เพียงแต่ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษรุนแรง แต่ยังอาจทำให้เกิดการปรับปรุงกฎเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด ทั้งในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การควบคุมพื้นที่นักกีฬาพักเบื้องหลัง และการตรวจสุขภาพก่อนขึ้นชกอย่างละเอียด การสอบสวนครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการหาคนผิด แต่เป็นการตัดสินทิศทางอนาคตของมาตรฐานมวยไทยในระดับชาติ หากผลออกมาชัดเจน วงการมวยไทยอาจถูกยกระดับไปอีกขั้น หรือกลับกัน จะยิ่งถูกวิจารณ์หนักว่าไม่มีความโปร่งใสเพียงพอในการดูแลนักกีฬา ถือเป็นคดีสำคัญที่ทุกคนต้องจับตามอง ( อ่านเพื่มเติม สถานที่ท่องเที่ยว )