| Home |
วงการกีฬามวยไทยต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า นักมวยทีมชาติไทยชุดเตรียมลุยซีเกมส์ 2025 ออกมาเปิดใจว่าเงินเบี้ยเลี้ยงที่ควรได้รับตามสิทธิ์ได้ล่าช้ากว่า 3 เดือนเต็ม ทำให้เจ้าตัวได้รับผลกระทบทั้งค่าครองชีพ ค่าเดินทาง และค่าโภชนาการที่จำเป็นต่อการฝึกซ้อม ข่าวนี้ทำให้แฟนกีฬาไม่พอใจอย่างหนัก เพราะนักกีฬาทีมชาติคือผู้แบกชื่อเสียงประเทศบนเวทีนานาชาติ แต่กลับต้องเจอปัญหาพื้นฐานที่ไม่ควรเกิดขึ้น มงกุฎเพชรเล่าว่าตนตั้งใจฝึกซ้อมเต็มที่ แต่การไม่มีเงินสนับสนุนทำให้เตรียมตัวลำบากขึ้นหลายเท่า เรื่องนี้ถูกแชร์ไวรัลในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว เพราะสะท้อนความล่าช้าของระบบงบประมาณด้านกีฬา และทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดปัญหานี้ยังคงเกิดซ้ำในทุกยุค ทั้งที่ซีเกมส์กำลังใกล้เข้ามาเต็มที
หลังการเปิดใจของมงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า กระแสสังคมเดือดทันที แฟนกีฬาออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ไม่ควรปล่อยให้ทีมชาติต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน” โดยเฉพาะเมื่อการฝึกซ้อมระดับชาติจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งเวย์โปรตีน อาหารเสริม การฟื้นฟูร่างกาย การเดินทางไปแคมป์ซ้อม และค่าสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หลายเสียงมองว่าปัญหานี้ไม่ใช่ครั้งแรก และสะท้อนถึงระบบบริหารจัดการที่ยังล่าช้าและไม่ทันโลกกีฬาอาชีพ ต่างประเทศให้สวัสดิการนักกีฬาดีกว่าไทยมากจนทำให้เกิดคำถามว่า “เราจริงจังกับกีฬาแค่ไหนกันแน่?” การที่มงกุฎเพชรกล้าออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมา จึงสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เพราะมันคือเสียงของนักกีฬาที่อยู่ในสนามจริง และสะท้อนปัญหาที่ไม่ควรถูกมองข้ามอีกต่อไป
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดจากเหตุการณ์นี้คือ “ผลกระทบโดยตรงต่อการฝึกซ้อม” ของมงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า และนักกีฬารายอื่นที่จะเดินทางไปแข่งขันซีเกมส์ 2025 เพราะการขาดเงินสนับสนุนทำให้ไม่สามารถจัดการโภชนาการและการฟื้นฟูได้ตามมาตรฐานทีมชาติ ส่งผลต่อฟอร์มการชกและโอกาสคว้าเหรียญของประเทศ นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของวงการกีฬาไทย เช่น ความล่าช้าของเอกสาร งบประมาณ หรือขั้นตอนบริหารจัดการที่ไม่ทันสถานการณ์ ทำให้โค้ชและนักกีฬาต้องลงขันช่วยกันดูแลตัวเองชั่วคราว ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในระดับทีมชาติ นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่า หากไม่แก้ไขโดยด่วน ผลงานของไทยในซีเกมส์ครั้งนี้อาจได้รับผลกระทบหนัก และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อสมาคมกีฬาต่าง ๆ ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากกระแสดังขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มถูกกดดันอย่างหนักให้เร่งจ่ายเงินให้มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า และนักกีฬาคนอื่น ๆ ทันที ขณะเดียวกันมีการตั้งโต๊ะพูดคุยเพื่อปรับปรุงระบบเบี้ยเลี้ยงและงบประมาณให้มีความคล่องตัวและตรวจสอบง่ายขึ้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำในอนาคต แม้จะอยู่ท่ามกลางปัญหา แต่มงกุฎเพชรยืนยันว่า “จะยังซ้อมเต็มที่เพื่อทีมชาติไทย” ทำให้แฟนกีฬาชื่นชมในความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ โค้ชและทีมงานเสริมว่าเด็กคนนี้มีอนาคตไกล และหากได้รับการดูแลเต็มรูปแบบ จะสามารถสร้างผลงานที่ประเทศภูมิใจได้แน่นอน ขณะที่สังคมยังจับตามองว่าการแก้ไขปัญหาครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว หรือจะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ( อ่านเพื่มเติม เว็บข่าว )