| Home |
กระแสในแวดวงกีฬา One championship ร้อนแรงทันทีเมื่อประกาศว่า “Smokin’ Jo” โจ ณัฐวุฒิ จะกลับมาชกอีกครั้งใน ONE ลุมพินี 137 ซึ่งจัดเต็มความมันส์ส่งท้ายปี นักสู้วัย 36 ปีจากโคราชเผยว่าการซ้อมเข้มข้นกว่าที่ผ่านมาเพื่อรับมือคู่ชกฟอร์มสดอย่าง “โมฮัมหมัด เซียซารานี” ที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังหมัดและการออกอาวุธรวดเร็ว ไฟต์นี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการพิสูจน์ตัวเองบนเวทีระดับโลก หลายสำนักคาดว่าจังหวะดุดันและสเต็ปมวยไทยของโจจะสร้างความได้เปรียบ หากควบคุมเกมได้ตั้งแต่ต้นยกก็มีสิทธิ์ปิดบัญชีแบบสะใจแฟนมวย
แม้โจจะมีประสบการณ์ระดับโลก แต่การเจอกับนักชกรุ่นใหม่ที่กำลังพุ่งแรงอย่างโมฮัมหมัดไม่ง่าย เพราะคู่แข่งรายนี้ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและความกล้าชนแบบไม่กลัวเจ็บ โจยอมรับว่าศึกนี้ต้องออกอาวุธให้แม่น คุมระยะให้อยู่ และไม่เปิดช่องให้คู่ต่อสู้เข้าถึงตัวเร็วเกินไป รูปแบบการชกของทั้งสองฝ่ายที่ต่างกันอย่างชัดเจนทำให้ไฟต์นี้ยิ่งน่าดู การวางแผนและปรับจังหวะตามสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่อาจชี้ขาดผลแพ้ชนะได้ทันที แฟนมวยเชื่อว่าความนิ่งและความเก๋าของโจอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เขาผ่านบททดสอบนี้ไปได้
การเตรียมตัวของโจในช่วงโค้งสุดท้ายถือว่าจริงจังอย่างมาก ทั้งการบิลด์ร่างกาย การสปาร์แบบจำลองสถานการณ์ และการวิเคราะห์การต่อสู้ของโมฮัมหมัดอย่างละเอียด ทีมโค้ชเผยว่าเน้นการปิดช่องว่าง ป้องกันการปะทะหนัก และอาศัยความเร็วในจังหวะสวนกลับ ซึ่งเป็นอาวุธเด่นของโจมาตั้งแต่สมัยเริ่มต้นสร้างชื่อ การคอนโทรลต้นยกและเร่งปลายยกเป็นแผนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เพราะหากโจสามารถรักษาความคมของอาวุธได้จนถึงยกท้าย ๆ ก็มีโอกาสคว้าชัยได้สูง จึงไม่น่าแปลกใจที่แฟนมวยให้ความสนใจไฟต์นี้อย่างล้นหลาม
ONE ลุมพินี 137 ถือเป็นหนึ่งในรายการที่รวมดาวดังและดาวรุ่งไว้มากที่สุดของปีนี้ การประกบคู่ของโจกับโมฮัมหมัดถูกมองว่าเป็นไฮไลต์ของค่ำคืนเพราะเป็นการพบกันของสองยุคสมัย—นักสู้เก๋าผ่านศึกหลายสนาม กับนักชกรุ่นใหม่ที่กำลังไล่ล่าชื่อเสียงระดับโลก แฟน ๆ ต่างจับตาว่าไฟต์นี้จะพลิกโฉมแรงกิงรุ่นเฟเธอร์เวตหรือไม่ เพราะหากโจทำผลงานได้โดดเด่น เขาอาจมีลุ้นขึ้นไปสู่ตำแหน่งท็อปโฟร์อีกครั้ง แม้ภารกิจครั้งนี้จะไม่ง่าย แต่ความพร้อมและความมุ่งมั่นของเขาทำให้บรรยากาศก่อนชกเต็มไปด้วยพลังและความคาดหวัง
ไฟต์นี้ไม่ได้สำคัญเพียงการชนะหรือแพ้ แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าโจยังคงมีความสามารถในการแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชัยชนะอาจเป็นใบเบิกทางให้เขาได้โอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต ทั้งใน ONE และวงการมวยไทยระดับนานาชาติ แฟนกีฬาจำนวนมากมองว่าเขาเป็นตัวอย่างของนักสู้ที่ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้แม้อายุจะเพิ่มขึ้น การพบกับคู่แข่งฟอร์มแรงจึงเหมือนบททดสอบที่สะท้อนพลังใจและความทุ่มเท เช่นเดียวกับกระแสในวงการ แฟชั่น ที่แสดงให้เห็นว่าการรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองคือสิ่งที่โดดเด่นที่สุดบนเส้นทางอาชีพ และไฟต์นี้อาจทำให้โจยืนหยัดแบบสง่างามอีกครั้ง