| Home |
Last modified พฤศจิกายน 19th, 2025 at 11:00 pm

เอเลียส ศึก ONE ลุมพินี 134 ใกล้เริ่มต้นและกระแสคู่เอกอินเตอร์กำลังมาแรงสุด เมื่อ เอเลียส มาห์มูดี นักชกสายแกร่งชาวฝรั่งเศส ออกมายืนยันความพร้อมแบบไร้ข้อกังขา พร้อมดวลกับ อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ หนึ่งในคู่ต่อสู้ที่ขึ้นชื่อว่าอ่านเกมยากที่สุดคนหนึ่งของรุ่น เอเลียส ยอมรับว่าไฟต์นี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่เขาติดอันดับ “ท้าทายที่สุดในปี” เพราะสไตล์ของอลาเวอร์ดีเต็มไปด้วยความเร็ว การเข้าทำแบบแทงทะลุจังหวะ และอาวุธเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฉียบคมระดับโลกทีมงานใกล้ชิดเผยว่า เอเลียส ซ้อมหนักขึ้น 20–30% จากไฟต์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มรอบการฝึกทั้งด้านคาร์ดิโอ การเคลื่อนที่แบบมุมลึก และการแก้ทางเกมยืนซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สุดของคู่แข่งชาวรัสเซีย – www.thsport.live
เสียงจากในค่ายของ เอเลียส บอกชัดว่าการเตรียมตัวครั้งนี้ “ไม่ได้ซ้อมเพื่อรับมือ แต่ซ้อมเพื่อบุกกลับให้อลาเวอร์ดีเสียรูปเกม” โดยเฉพาะการเปลี่ยนจังหวะออกหมัด การสวนเตะมุมแคบ และเกมประชิดที่เอเลียสทำได้ดีเป็นพิเศษ
โค้ชยังกล่าวว่า การเจอกับคู่ชกอย่างอลาเวอร์ดีต้องใช้จังหวะที่เฉียบมาก เพราะอีกฝ่ายเป็นนักมวยที่อ่านเกมไวและปรับรูปแบบการโจมตีได้หลากหลาย การเตรียมรูปแบบใหม่จึงมีความสำคัญสูงสุดในไฟต์นี้ – ONE Championship
ทางฝั่ง อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ ก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เช่นเดียวกัน หลังรายงานระบุว่าเขาฝึกเพิ่มเรื่อง สปีดเท้า และ เตะไดนามิก เพื่อใช้เป็นอาวุธควบคุมจังหวะเกม โดยเฉพาะการเตะปลายคางและเตะก้านคอซึ่งเป็นอาวุธเด่นของเขามานาน อลาเวอร์ดีเป็นที่รู้กันว่า “ไม่ปล่อยให้คู่ชกตั้งเกมได้ง่าย” เขามักเปิดเกมเร็วตั้งแต่วินาทีแรก ทำให้แฟนมวยคาดว่า มวยคู่นี้อาจแทบไม่มีช่วงชะลอจังหวะตั้งแต่ยกแรกจนถึงยกสุดท้าย ทีมเทรนเผยว่าพวกเขาเน้นการซ้อมจำลองสถานการณ์ที่ เอเลียส พยายามกดเกม ประกบพื้นที่ และปิดมุมหนี เพื่อให้อลาเวอร์ดีพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น – โปรแกรมมวยล่าสุด
หลายสำนักมวยวิเคราะห์ตรงกันว่า คู่นี้มีโอกาส “จบด้วยความผิดพลาดเล็ก ๆ” เพราะทั้ง เอเลียส และอลาเวอร์ดีเก่งในเรื่องการเดาจังหวะและสอนจังหวะสวนกลับ เอเลียส ได้เปรียบเรื่องความคมของหมัดและการเข้าทำแบบเป็นสามจังหวะ ส่วนอลาเวอร์ดีได้เปรียบเรื่องการเตะและความสามารถในการลากคู่ชกออกจากจังหวะเดิม สิ่งที่ทำให้ไฟต์นี้น่าสนใจมากคือ ทั้งคู่มีสไตล์ที่ “ฆ่ากันด้วยความเร็ว” ไม่ใช่ความหนักเพียงอย่างเดียว ทำให้ทุกวินาทีบนสังเวียนจะเป็นการเล่นเกมสมองระดับสูงชนิดแฟนมวยหายใจไม่ทั่วท้อง
เสียงตอบรับจากแฟนมวยเริ่มพุ่งแรง โดยเฉพาะในโซเชียลแฟน ONE ที่ต่างให้ความสนใจการพบกันของนักชกสองสไตล์สุดต่างขั้ว ทั้งความเร็ว ความคม และความดุดัน ทำให้ไฟต์นี้ถูกคาดว่า “อาจเป็นคู่มวยที่ดีที่สุดของ ONE ลุมพินี ซีรีส์ช่วงครึ่งปีนี้” หลายคนมองว่าใครที่ชนะไฟต์นี้จะมีสิทธิ์ขยับเข้าใกล้โอกาสไฟต์ระดับสูงขึ้นอีกขั้นทันที
ไฟต์ของ เอเลียส และอลาเวอร์ดีสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการทำงานหนักและพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งคู่เริ่มต้นจากเวทีมวยท้องถิ่นในประเทศของตัวเองก่อนจะไต่ระดับสู่การเป็นนักชกระดับอินเตอร์ใน ONE ลุมพินี เช่นเดียวกับหลายสิ่งในโลกที่เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ก่อนกลายเป็นระบบใหญ่ที่ทรงอิทธิพล เช่นวิวัฒนาการของยานยนต์ที่เปลี่ยนโลกไปโดยสิ้นเชิง หากพี่อยากเห็นตัวอย่างเส้นทางของสิ่งที่เริ่มจากจุดเล็ก ๆ และเติบโตจนขับเคลื่อนโลกได้ในที่สุด ลองอ่านต่อได้ที่นี่ ( อ่านเพิมเติ่ม ประวัติรถยนต์ )