tidpaknews “ป้อมเพชร พานทองยิม” จอมบู๊ขาลุย วัย 26 ปี จากบุรีรัมย์ หวนคืนรายการในรอบกว่าครึ่งปี พร้อมรับความท้าทายใหม่ขยับขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) เต็มตัวครั้งแรก โดยท้าชนแกร่ง “ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า” นักสู้ใจถึง วัย 25 ปี จากอุบลราชธานี ที่หวังกลับมากู้ฟอร์ม โดยทั้งคู่พร้อมบู๊กันในฐานะคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 111 ที่จะส่งต่อความสนุกไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
ก่อนหน้านี้ “ป้อมเพชร” มีคิวกลับมากู้ศรัทธาในศึก ONE ลุมพินี 102 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขึ้นป้ายเป็นคู่เอกพบกับ “แรมบ๊อง ส.เถระพัฒน์” คู่ชกจากลำพูน แต่ด้วยเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้รายการจึงต้องยกเลิก โดยยังคงได้รับค่าตัวแบบเต็มจำนวน tidpaknews
ตอนนี้ “ป้อมเพชร” ที่เปลี่ยนมาใช้สีเสื้อ “พานทองยิม” เป็นครั้งแรก พร้อมแล้วที่จะกลับมาพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง และไฟต์นี้ยังเพิ่มความพิเศษไปอีกขั้น เมื่อเขาเตรียมขึ้นอวดฝีมือในพิกัดใหม่รุ่นฟลายเวตเป็นครั้งแรก โดยตั้งใจตามล่าแต้มชัยครั้งที่ 5 จากการขึ้นชกไฟต์ที่ 8 ในศึก ONE ลุมพินี และกู้ฟอร์มจากความพ่ายแพ้ 2 ไฟต์หลังสุดให้ได้
“แม้ผมจะแพ้มา 2 ไฟต์ติด แต่นั่นก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ผมซ้อมหนัก เตรียมพร้อมเต็มที่ และมั่นใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาเก็บชัยให้ได้อีกครั้งครับ”
“ไฟต์นี้ผมตัดสินใจขยับขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวตแบบเต็มตัว เพราะน้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้น และในพิกัด 135 ปอนด์ ก็ยังมีคู่ชกให้พิสูจน์ฝีมืออีกเยอะ เลยอยากลองท้าทายตัวเองในเวทีนี้ดูครับ”
“การชกรุ่นที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ผมต้องซ้อมกับนักมวยตัวใหญ่กว่า ส่งผลให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น รับมือกับคู่ชกได้ดีขึ้น และออกอาวุธได้หนักแน่นกว่าเดิมครับ”
การกลับมาครั้งนี้ “ป้อมเพชร” ต้องเผชิญบททดสอบสำคัญกับ “ผึ้งหลวง” คู่ชกที่ยืนระยะในรุ่นฟลายเวตมาโดยตลอด และกำลังมุ่งมั่นมากู้ฟอร์มหลังพ่ายมา 3 ไฟต์ติดต่อกัน ชัยชนะครั้งนี้จึงมีความหมายต่อทั้งสองฝ่ายในฐานะโอกาสสำคัญในการกู้ศรัทธา และ “ป้อมเพชร” ก็พร้อมเทหมดหน้าตักเพื่อคว้าชัยให้ได้
“ผมไม่ได้มองว่าไฟต์นี้จะง่ายเลยครับ เพราะ ผึ้งหลวง เป็นนักสู้ที่มีอาวุธหนัก โดยเฉพาะแข้งซ้ายหน้าและหมัดชุดลำตัวที่อันตรายมาก ช่วงซ้อมผมจึงต้องให้ความสำคัญกับการรับมืออาวุธเหล่านี้เป็นพิเศษ”
“แม้ช่วงหลังเขาจะแพ้ติดกัน แต่ผมมองว่าเขายังรักษามาตรฐานการชกไว้ได้ดี เพียงแต่อย่างที่รู้กันว่า นวมเล็กของ ONE ทำให้เกิดช่องโหว่ได้ง่าย หากพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจโดนปิดเกม จุดอ่อนของเขาคือมักจะเผลอเปิดการ์ดตอนปล่อยอาวุธ แม้จะบุกได้ดุดัน แต่แนวรับกลับยังมีจุดที่เปิดช่องให้โจมตีอยู่ครับ”
“จุดแข็งของผมคือความอึดและความกล้าชน ผมพร้อมบวกเต็มที่ไม่มีถอย ไฟต์นี้น่าจะออกมามันแน่นอน เพราะเขาเป็นสายเดินบุกใส่อาวุธหนัก ส่วนผมก็ไม่กลัว พร้อมเปิดเกมแลกแบบไม่มีใครยอมใคร รับรองว่าทั้งสนุก ทั้งดุเดือดครับ”
แม้จะร้างห่างรายการไปนานกว่าครึ่งปีแต่ “ป้อมเพชร” ยังเชื่อมั่นในตัวเองว่ามีดีพอที่จะกู้ฟอร์มเก่งกลับมาได้ เพราะตนเตรียมตัวทำร่างกายผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก และอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตัวเองยังไปต่อได้อีกไกลในเส้นทางมวยรายการของ ONE
“ไฟต์นี้มีความหมายมากสำหรับผม เพราะถ้าคว้าชัยได้ จะเป็นการพิสูจน์ว่าผมพร้อมลุยในรุ่นฟลายเวตเต็มตัว และมีโอกาสได้ต่อยอดชกในรายการอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าถ้าผ่าน ผึ้งหลวง ไปได้ คู่ชกคนต่อไปก็คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วครับ”
“ผมเตรียมตัวมาเต็มที่ และหวังจะคว้าชัยชนะเพื่อแฟน ๆ ทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ แม้จะห่างเวทีไปนาน แต่ครั้งนี้ผมมีของดีกลับมาแน่นอนครับ”
ติดตาม “ผึ้งหลวง vs ป้อมเพชร” ศึก ONE ลุมพินี 111 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้ ( tidpaknews )
– ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
– เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
– ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
– Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.