| Home |
ONE Championship ศึกคู่เอกของวันที่ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน กลายเป็นประเด็นร้อนบนหน้าข่าวกีฬาทั่วเอเชีย เพราะการกลับมาของ “ซุปเปอร์บอน” ในไฟต์นี้คือสิ่งที่แฟนมวยทั่วโลกเฝ้ารอ หลังจากโชว์ฟอร์มแข็งแกร่งติดต่อกันหลายไฟต์ และถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักชกที่ครบเครื่องที่สุดของ ONE ในยุคปัจจุบัน การพบกับ “มาซาอากิ โนะอิริ” นักคิกบ็อกซิ่งตัวแทนญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังหมัดหนักและสไตล์บู๊ดุดัน ทำให้ไฟต์นี้ถูกคาดการณ์ว่าไม่มีคำว่าเบา และอาจเป็นหนึ่งในไฟต์ที่จบแบบไม่ครบยกได้ทุกเมื่อ
สื่อชั้นนำอย่าง SCMP และสื่อมวยญี่ปุ่นต่างรายงานตรงกันว่า การปะทะกันครั้งนี้คือไฟต์ที่ทั้งสองคน “ไม่มีสิทธิ์ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว” เพราะเกมบนเวที ONE Championship เป็นเกมความเร็วและความแม่นยำ ทุกวินาทีสามารถเปลี่ยนหน้าเกมได้ทันที คลิปซ้อมล่าสุดของทั้งคู่ยิ่งทำให้กระแสเดือดขึ้นกว่าเดิม เพราะซุปเปอร์บอนดูคมกว่าเดิม ขณะที่มาซาอากิกลับมาด้วยสภาพร่างกายเต็มร้อย ไฟต์นี้จึงเป็นการปะทะที่ทั้งสองฝ่ายจะใส่สุดแรงโดยไม่มีใครยอมใครแม้แต่วินาทีเดียว
ซุปเปอร์บอนถือเป็นหนึ่งในนักสู้สายคิกบ็อกซิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ ONE Championship ยุคปัจจุบัน และยังเป็นตัวแทนนักชกไทยที่สร้างผลงานระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา เขาโชว์ฟอร์มคืนสู่ท็อปฟอร์มด้วยการเก็บชัยสำคัญและล้างคำครหาหลายครั้ง จนสื่อกีฬาต่างประเทศอย่าง SCMP Kickboxing วิเคราะห์ว่าเขากลับมาอยู่ในจุดที่ “อันตรายที่สุด” อีกครั้ง จุดเด่นของซุปเปอร์บอนคือความแม่นยำของอาวุธ โดยเฉพาะการเตะสูงและการคุมระยะที่แทบไม่มีใครอ่านได้ ซึ่งหลายไฟต์พิสูจน์แล้วว่าเมื่อเจอจังหวะที่ใช่ เขาสามารถปิดบัญชีคู่ต่อสู้ได้ทันที
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน ภาพการซ้อมที่ปล่อยออกมาจากค่ายถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะซุปเปอร์บอนดูฟิตขึ้น เหนียวแน่นขึ้น และมีการเคลื่อนตัวที่มั่นคงกว่าไฟต์ก่อน ๆ หลายระดับ นักวิเคราะห์ยังมองว่าเขาเตรียมเกมรับที่แน่นขึ้นเพื่อรับมือหมัดหนักของมาซาอากิ พร้อมเพิ่มจังหวะสวนกลับที่คมกว่าเดิม หากซุปเปอร์บอนสามารถคุมพื้นที่และรักษาระยะได้ดี ไฟต์นี้มีโอกาสสูงที่เขาจะเป็นฝ่ายคุมเกมตั้งแต่ต้นจนจบ บนสังเวียน ONE Championship ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
มาซาอากิ โนะอิริ คือหนึ่งในนักคิกบ็อกซิ่งญี่ปุ่นที่ถูกยกให้มีพลังหมัดอันตรายที่สุดของยุค โดยเฉพาะในไฟต์ระดับแชมป์ที่ต้องการทั้งความเร็ว ความดุดัน และจังหวะเข้าทำที่แม่นยำ การได้ขึ้นเวที ONE Championship ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่โนะอิริตั้งใจจะใช้พิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรกับการยืนบนระดับแนวหน้าของโลก หลังจากมีรายงานจากสื่อญี่ปุ่นหลายสำนัก เช่น Tokyo Sports และ Gong Kakutogi ว่าเขาเพิ่มรอบการซ้อมอย่างหนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งในด้านความอึด การปิดระยะ และการออกหมัดชุดซึ่งเป็นจุดแข็งของเขามาโดยตลอด
โนะอิริขึ้นชื่อเรื่องการเดินเร็วและไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ตั้งตัว เขามักบีบพื้นที่ทันทีที่มีโอกาสและใช้พลังหมัดสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า หากเขาสามารถพาซุปเปอร์บอนเข้าระยะหมัดได้ ไฟต์นี้อาจเปลี่ยนหน้าเกมทันที เพราะหมัดของโนะอิริเคยปิดไฟคู่ชกระดับแชมป์มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งสภาพร่างกายในช่วงปลายค่ายซ้อมที่ถูกเปิดเผยยังดูแน่นและฟิตมาก ทำให้แฟนมวยญี่ปุ่นเชื่อว่าเขามีความพร้อมเต็มร้อยที่จะสร้างเซอร์ไพรส์บนเวที ONE Championship และกลายเป็นตัวแปรสำคัญของค่ำคืนการแข่งขันครั้งนี้
เมื่อพิจารณารูปเกมโดยรวม ไฟต์วันที่ 16 พฤศจิกายน บนสังเวียน ONE Championship ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการปะทะของสองสไตล์ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่กลับลงตัวอย่างน่าจับตามอง ฝั่งซุปเปอร์บอนมีจุดเด่นด้านความคมและความแม่นยำ โดยเฉพาะจังหวะออกแข้งสูงที่ทำคู่ชกหลายรายพลาดท่า ขณะที่มาซาอากิ โนะอิริเน้นเกมบุกแบบปิดพื้นที่เร็ว ใช้พลังหมัดเป็นอาวุธหลัก สื่อกีฬาหลายสำนัก เช่น SCMP และ Beyond Kick ต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า “ยกแรกคือยกชี้วัดทิศทาง” หากซุปเปอร์บอนคุมระยะได้ เขาจะได้เปรียบตั้งแต่ต้น แต่ถ้าโนะอิริปิดพื้นที่ได้ก่อน เกมอาจเปลี่ยนแบบฉับพลัน
ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า ช่วงกลางยกสองถึงยกสามคือช่วงที่ไฟต์จะเดือดที่สุด เพราะเป็นจังหวะที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มหาจังหวะเข้าใส่ได้ชัดเจน และมีโอกาสสูงที่ใครพลาดเพียงเสี้ยววินาทีอาจโดนอาวุธหนักแบบเต็ม ๆ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาจังหวะสวนกลับของซุปเปอร์บอนที่ขึ้นชื่อเรื่องความคม และพลังหมัดของโนะอิริที่พร้อมจบไฟต์ได้ทุกวินาที การเผชิญหน้าครั้งนี้จึงเป็นไฟต์ที่คาดเดายาก และมีโอกาสจบได้ทั้งแบบคะแนนหรือแบบไม่ครบยกตามสภาพเกมที่เกิดขึ้นจริง แหล่งที่มา ONEChampionship
ศึกคู่เอกระหว่างซุปเปอร์บอนและมาซาอากิ โนะอิริในวันที่ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน ถูกยกให้เป็นหนึ่งในไฟต์ที่แฟนกีฬาต่อสู้ต้องไม่พลาดด้วยเหตุผลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มล่าสุดของทั้งคู่ที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสไตล์การชกที่ต่างกันแบบสุดขั้วจนทำให้ไฟต์นี้คาดเดายาก สื่อหลายสำนัก เช่น ONE Official, SCMP และสื่อญี่ปุ่นอย่าง Tokyo Sports ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า นี่คือไฟต์ที่มีศักยภาพจบเร็วทุกวินาที เพราะต่างฝ่ายต่างมีอาวุธจบสกอร์ที่อันตราย ฝั่งซุปเปอร์บอนมีความแม่นยำและจังหวะสวนกลับที่คมกริบ ส่วนมาซาอากิขึ้นชื่อเรื่องพลังหมัดที่พร้อมทำให้คู่ชกเสียหลักในทันที สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ไฟต์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดตั้งแต่เสียงระฆังยกแรกดังขึ้น ผู้เชี่ยวชาญในวงการยังย้ำว่า ไฟต์นี้ไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดา แต่เป็นการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชื่อเสียง ศักดิ์ศรี และโอกาสในการก้าวสู่เส้นทางใหม่ใน ONEChampionship ค่ำคืนนี้จึงไม่ใช่แค่การดวลกันของสองนักสู้ แต่เป็นช่วงเวลาที่แฟนมวยจะได้เห็น “คุณภาพของคิกบ็อกซิ่งระดับโลก” อย่างแท้จริง ใครเป็นผู้ชนะ อาจต้องให้สังเวียนเป็นผู้ตัดสินเพียงอย่างเดียว อ่านเพื่มเติม onecbdseeds